ใช้แอปฯ รายรับ-รายจ่าย
จัดการเงินดียังไง
การใช้แอปฯ รายรับ-รายจ่ายในการจัดการเงินมีข้อดีหลายประการ ดังต่อไปนี้
-
ติดตามการใช้จ่ายง่ายขึ้น ช่วยให้สามารถบันทึกรายรับและรายจ่ายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า รายจ่ายประจำเดือน หรือรายได้จากงานต่าง ๆ
-
ด้วยข้อมูลที่แสดงในแอปฯ จะทำให้สามารถวิเคราะห์และวางแผนการใช้จ่ายในอนาคตได้ดีขึ้น เช่น การตั้งเป้าหมายการออม หรือการจัดสรรเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่สำคัญ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ เก็บเงินเที่ยวต่างประเทศ ค่าเทอมลูก เป็นต้น
-
แอปฯ สามารถกำหนดงบประมาณแต่ละหมวดหมู่ได้ จึงช่วยเตือนเมื่อมีการใช้เงินเกินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ ทำให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น
-
แอปฯ มักจะมีฟังก์ชันที่ช่วยสร้างกราฟหรือรายงานสรุปการใช้จ่ายเพื่อให้เห็นภาพรวมของสถานะการเงินได้ง่าย ๆ
-
ช่วยให้รู้จักการออมและลงทุน เพราะการติดตามรายรับและรายจ่ายจะช่วยให้เห็นภาพว่ามีการใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และมองเห็นส่วนที่สามารถออมและลงทุนได้
-
เพิ่มวินัยทางการเงิน เพราะการบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นประจำสามารถช่วยสร้างวินัยทางการเงินและทำให้รู้จักการบริหารเงินอย่างมีระเบียบ
-
บางแอปฯ มีฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดต้องจ่ายค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ หรือหนี้สินต่าง ๆ ตามรอบบิล จะได้ไม่ลืมจ่ายแล้วเสี่ยงต่อการเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติม
วิธีเลือกแอปฯ รายรับ-รายจ่าย
ให้เหมาะกับตัวเอง
เพราะแต่ละแอปฯ มีฟังก์ชันและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้
-
เลือกแอปฯ ที่มีการออกแบบหน้าตาอินเทอร์เฟซและการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้มาก
-
เลือกแอปฯ ที่มีฟีเจอร์ตรงกับความต้องการในการใช้งานของตัวเอง เช่น การจัดการงบประมาณ การวางแผนการออม สามารถแสดงกราฟหรือรายงานสรุปได้
-
มีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออม เช่น การเชื่อมต่อบัญชีธนาคารหรือเครดิต หรือสามารถ Sync ข้อมูลอัตโนมัติ
-
หากเพียงแค่ต้องการติดตามการใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน แอปฯ ฟรีอาจเพียงพอ แต่ถ้าหากต้องการฟีเจอร์พิเศษ เช่น การวางแผนการลงทุน หรือรายงานที่ละเอียดมากขึ้น อาจต้องพิจารณาใช้เวอร์ชั่นพรีเมียม
-
การเลือกใช้แอปฯ ที่สามารถใช้งานแบบออฟไลน์ได้จะมีข้อดีคือ สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
-
อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เพื่อดูว่าคนส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการใช้แอปฯ อย่างไร และมีปัญหาหรือข้อบกพร่องที่ต้องระวังหรือไม่
แอปฯ รายรับ-รายจ่าย
น่าสนใจ ปี 2025
1. Weple Money
แอปฯ รายรับ-รายจ่ายสำหรับผู้ใช้ iOS ที่จะเปลี่ยนความยุ่งยากในการบันทึกรายรับ-รายจ่ายให้กลายเป็นเรื่องง่าย โดยมาในรูปแบบของปฏิทินให้สามารถบันทึกเงินเข้า-ออกของแต่ละวันได้ทันที พร้อมทั้งสามารถระบุรายละเอียดหรือใส่รูปภาพเข้าไปได้ด้วย รวมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ อย่างเช่น การระบุรายละเอียดสินทรัพย์ต่าง ๆ และการสรุปข้อมูลในรูปแบบกราฟ เป็นต้น
2. Fast Budget
ทำเรื่องการเงินให้เป็นเรื่องง่ายด้วยแอปฯ Fast Budget โดยผู้ใช้สามารถบันทึกและตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในแต่ละวันได้สะดวก ด้วยการสร้างหมวดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งแก้ไขหรือเรียงหมวดใหม่ เพื่อบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายประจำวันในรูปแบบที่ต้องการ มีหน้าภาพรวมการเงินที่สามารถปรับแต่งได้ พร้อมเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีประโยชน์และจะช่วยให้บริหารจัดการการเงินของเราให้ดียิ่งขึ้น เช่น ชาร์ตต่าง ๆ หรือปฏิทินการเงิน เป็นต้น
3. สมุดเงินสด
แอปฯ สำหรับจัดการธุรกรรมเงินสดและค่าใช้จ่ายรายวันที่สามารถใช้งานได้ง่าย รองรับภาษาไทย เหมาะกับคนทำธุรกิจที่ต้องการจดบัญชีหรือสมุดบัญชีแยกประเภทเครดิต-เดบิตสำหรับธุรกิจและกิจการต่าง ๆ เพื่อบันทึกการซื้อ-ขายรายวัน รวมทั้งติดตามเครดิตที่ให้ลูกค้าหรือเงินล่วงหน้าที่ให้พนักงาน ส่วนคนทั่วไปสามารถใช้เป็นแอปฯ จัดการการเงินเพื่อบันทึกและติดตามรายรับ-รายจ่ายประจำวันก็ได้เช่นกัน
4. Money Tracker
แอปฯ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามค่าใช้จ่ายได้ง่ายและสะดวก พร้อมทั้งมีหน้าสรุปภาพรวมการเงินแบบปรับแต่งได้ หรือถ้าหากใครไม่รู้จะเริ่มปรับจากตรงไหนก็ยังมี Template สำเร็จรูปให้เลือกใช้งานได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีเครื่องคิดเลขในตัว เพื่อช่วยให้บันทึกและจัดการงบการเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสลับแอปฯ
5. Toshl Finance
Toshl Finance เป็นแอปฯ อีกตัวที่น่าสนใจ ช่วยให้เรารู้สถานะการเงินในปัจจุบันว่ามีการใช้จ่ายไปกับอะไรและเท่าไหร่บ้าง เหลือเงินอีกมากน้อยแค่ไหน แถมยังรองรับทุกสกุลเงิน เหมาะกับคนที่ใช้จ่ายหลายประเทศ พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตต่าง ๆ แยกได้หลายบัญชี รวมถึงการ Sync ข้อมูลเพื่อความสะดวกในการใช้งานผ่านหลายอุปกรณ์
6. Wallet Story
จุดเด่นของแอปฯ นี้ก็คือ เป็นแอปฯ ภาษาไทยที่มีฟังก์ชันครบครัน สามารถแบ่งหมวดหมู่และหมวดหมู่ย่อยของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งเพิ่มรูปภาพและแท็กในรายการธุรกรรม ทำให้ดูง่าย มีปฏิทินรายรับ-รายจ่าย สามารถกำหนดเป้าหมายการออมเงินได้ ดูสรุปรายจ่ายได้ทั้งแบบรูปภาพแผนภูมิและกราฟ ช่วยให้เห็นภาพค่าใช้จ่ายได้หลายมิติ อีกทั้งยังสามารถแยกได้หลายบัญชีและปรับแต่งสกุลเงินได้อีกด้วย
7. Spendee
แอปฯ จัดการและติดตามค่าใช้จ่ายที่สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารและกระเป๋าเงินดิจิทัล-คริปโตทั้งหมดรวมไว้ในแอปฯ เดียว ช่วยให้ดูภาพรวมทางการเงินได้สะดวก มีการจัดหมวดหมู่และแสดงให้ดูอย่างชัดเจนในรูปแบบอินโฟกราฟิก สามารถกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการออมเงินและมีสุขภาพทางการเงินที่ดี
8. Money Lover
อีกหนึ่งแอปฯ รายรับ-รายจ่ายฟรีที่คนนิยมใช้ แม้จะเป็นแอปฯ ที่หน้าตาดูเรียบง่าย แต่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งงบประมาณเพื่อควบคุมการใช้จ่าย ติดตามการใช้จ่ายได้สะดวก รู้ว่าเงินมาจากไหนและไปที่ไหน จัดการใบเรียกเก็บเงินที่ต้องจ่ายและหนี้สินทั้งหมดได้ในที่เดียว พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายและติดตามการออม มีสรุปรายงานการเงินให้ดูแบบละเอียด และรองรับหลากหลายสกุลเงิน
ทั้งหมดนี้ก็คือแอปฯ รายรับ-รายจ่ายที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยจัดการการเงินอยู่ได้ลองพิจารณ์เลือกดาวน์โหลดไปใช้ในปี 2025 แต่การจะใช้แอปฯ เหล่านี้จัดการเงินให้ได้ผลดี ต้องไม่ลืมที่จะหมั่นบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและทบทวนข้อมูลเป็นประจำ เพื่อปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับแผนการเงินของตัวเองกันด้วยนะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันการเงิน
-
แอปฯ กู้เงินถูกกฎหมาย ปี 2025 กู้เงินได้จริง ไม่เสี่ยงเจอมิจฉาชีพ !
-
วิธีเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือผูกกับธนาคารต่าง ๆ แบงก์ไหนเปลี่ยนผ่านแอปฯ ได้บ้าง เช็กเลย !
-
NDID คืออะไร รู้จักเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล ลงทะเบียนง่าย ๆ ผ่านแอปฯ
-
แอปฯ ดูดเงิน มีอะไรบ้าง แฝงอยู่ในมือถือหรือยัง พร้อมวิธีป้องกันให้รอดจากการเป็นเหยื่อ